ทำไมผมถึงอยากกลับมาเล่นหมากล้อมอีกครั้ง

10/3/2021

Intro ผมเคยเล่นกีฬากระดานชนิดนี้ในสมัยช่วง ม.3 - ม.4 ตอนนั้นผมรู้สึกชื่นชอบเกมกีฬาชนิดนี้มาก เนื่องจากเป็นเกมที่มีความเรียบง่ายแต่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก เพียงแค่การเดินหมากสีขาวและสีดำสลับกันไปมาบนกระดานตารางขนาด 19 x 19 แต่กลับมีวิธีคิดที่หลากหลายจนนับไม่ถ้วน และจนถึงตอนนี้ก็ยังคงคิดอย่างนั้นอยู่

ตอนนั้นผมมีระดับฝีมืออยู่ที่ประมาณ 5-6 kyu (มั้ง5555) ผมเคยได้เล่นเป็นตัวแทนจังหวัดในการงานกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติทั้งหมด 2 ครั้ง และ M-League (งานแข่งหมากล้อมที่เป็นแบบทีมระหว่างโรงเรียน) รวมไปถึงพวกงานแข่งที่จัดขึ้นโดยสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทย

OurGroup แต่เมื่อผมขึ้น ม.5 ผมก็ต้องลาจาก (ใช้คำเว่อร์ไปมั้ย555) กีฬาชนิดนี้ เนื่องจากภาระงานและการเตรียมตัวเข้าค่ายคณิตศาสตร์โอลิมปิกอีก(โอ้! มีคอนเท้นต์ให้เขียนอีกละ) ทำให้ผมลืมเกมกระดานนี้ไปเลย จนกระทั่งผมเรียนมหาลัย

ช่วงเปิดเทอมปี 2 ที่ผ่านมา (ประมาณ 3 เดือนก่อนเขียนบล็อกนี้) ผมก็เกิดอยากกลับมาเล่นอีกด้วยเหตุผลที่น่าฟัง(หรอ)

ฝึกความรอบคอบและการมีสติ **Main Point

ถ้าใครเล่นเกมนี้จะรู้ว่าเราต้องมีสติตลอดเวลา การเดินหมากทุกเม็ดนั้นล้วนมีผลกับเกมทั้งสิ้น หากเดินผิดพลาดกลุ่มหมากหรือเกมอาจพลิกได้ ซึ่งพอผมนึกถึงการแข่งขันของตัวผมเองแล้ว

บ่อยครั้งมากที่ผมแต้มนำมาทั้งเกมแล้ว แต่ผมกลับอ่านหมากได้ไม่ดีในตอนสุดท้ายทำให้หมากตัวเองตายกลุ่มใหญ่ ;-; หรือการเดินในช่วงต้นเกมหรือกลางเกมตาม sense ทำให้ผมมักจะไม่คิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่อาจส่งผลร้ายแรง

ซึ่งนิสัยแย่ๆนี้ของผมได้แสดงออกมาในชีวิตประจำวันด้วย เช่น บ่อยครั้งผมมักจะตอบตกลงโดยไม่คิดอะไร หรือทำอะไรส่งๆให้มันจบๆไป เนื่องจากคิดว่า “ถ้ามันผิดพลาดก็ค่อยกลับมาแก้ก็ได้นี้นาาา” ซึ่งเป็นสิ่งที่แย่มากๆ (ๆ x 10000000 ตัว)

ซึ่งการเล่นโกะนั้นมีกฎที่ระบุไว้ชัดเจนว่า “ห้ามเปลี่ยนตำแหน่งหมากที่ลงไปแล้วโดยเด็ดขาด” หรือก็คือย้อนกลับไม่ได้นั้นแหละ

เป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ผมได้ดัดนิสัยสุด pain ของตัวเองด้วย

การมองภาพใหญ่

จริงๆนี้เป็นเหตุผลที่ผมพึ่งคิดได้ตอนกำลังเขียนบทความนี้ละ555 คือผมคิดว่าผมทำได้ดีในโลกแห่งความเป็นจริงนะ แต่เหมือนจะดีไม่พอสำหรับเกมกระดานอันซับซ้อนชนิดนี้

โกะ(อีกชื่อของเกมหมากล้อม) จะสอนให้เรามองภาพรวมสถานการณ์ของทั้งกระดาน ด้วยความที่กระดานโกะนั้นมีพื้นที่ที่ใหญ่มากกก ทำให้บางครั้งเรามัวแต่จดจ่ออยู่หรือยึดติดกับกลุ่มหมากเล็กๆกลุ่มหนึ่ง และลงทุนจนเกินความจำเป็น (Overconcentration)

play

การใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์

เป็นข้อที่ต่อเนื่องมาจากข้อบนสุดนั้นแหละ เมื่อผมไม่ได้ใช้สติก็ทำให้เป็นการเดินหมากตาม sense ในการเล่นแทน ซึ่งมันคือประสบการณ์จากเกมก่อนๆที่เคยเล่นมากโดยไม่ไตร่ตรองให้ดี ซึ่งแน่นอนว่าผมเป็นผู้เล่นระดับ kyu ทำให้การเดินในเกมก่อนๆนั้นไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว หรือการเดินให้ shape สวยเพียงอย่างเดียว ไม่ได้อ่านหมากให้ละเอียดถี่ถ้วน

อยากใช้งานสมองให้ได้เต็มที่ในทุกเวลาที่ต้องการ

อาจเป็นเหตุผลที่ดูแปลก(ก็แปลกจริงๆนั้นแหละ555) แต่ผมมักจะไม่สามารถคิดอะไรที่เป็น Logic ที่ค่อนข้างซับซ้อนได้ทุกเวลาที่ผมต้องการ(ทั้งๆที่ไม่ได้เหนื่อยหรือทำอะไรมาก่อนนะ) เช่นตอนผมสอบ Data Structure (อ๊ะ! ผมเรียนวิศวะคอมนะครับ เผื่อใครไม่ทราบ) ผมไม่สามารถเขียน Code ให้มีประสิทธิภาพออกมาได้(หรือแค่เขียนให้ Output ตรงกับต้องการยังไม่ได้เลย) เนื่องจากสมองคิดอะไรๆไม่ออกเลย หรือบางครั้งโจทย์ง่ายมากๆก็ทำไม่ได้

เลยอาจต้องใช้มันบ่อยๆ น่าจะพอช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้

สรุป

นี้เป็นเพียงเหตุผลส่วนหนึ่งเท่านั้นในการกลับมาเล่น หลักๆคือ เพื่อแก้ไขนิสัยแย่ๆของตัวเอง โดยผมมีเป้าหมายอยากขึ้น 1 ดั้งละกัน เพราะเราเคยได้ยินว่านักหมากล้อมระดับ 1 ดั้งจะต้องสามารถอธิบายเหตุผลในการเล่นแต่ละเม็ดของตัวเองได้(ละมั้ง—’) หากผมคิดเหตุผลออกอีกแล้วผมจะมาเขียนเพิ่มครับ